BEING PRACTICAL

คอร์สเสริมทักษะการวางกลยุทธ์เพื่อยกระดับธุรกิจด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม คอร์สเดียวในประเทศที่ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้จากชุดเครื่องมือจริง เพื่อสร้างชุดทักษะที่นำไปใช้ได้จริง

Scroll down to content

COURSE JOURNEY

Day 1

Lego® Serious Play® (LSP®) Methods

หนึ่งในเทคนิคที่จะช่วยดึงศักยภาพของสมองและจินตนาการออกมาอย่างสร้างสรรค์ โดยใช้ตัวต่อเลโก้มาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการคิด กระบวนการแก้ไขปัญหา การสร้างนวัตกรรม และวางแผนกลยุทธ์ให้กับองค์กร นอกจากนี้ยังช่วยให้ทีมงานสามารถสื่อสารแนวคิดและมุมมองภายในทีมให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ทำให้เห็นภาพรวมของปัญหาไปในทิศทางเดียวกัน และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดี

ไอเดียที่ประกอบจากของเล่น แต่ผลลัพธ์ไม่ใช่เล่น ๆ

Lego Serious Play ถือเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่สามารถนำมาปฏิบัติควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมของ Design Thinking เพื่อให้องค์กรสามารถเข้าใจ (Empathize) ผู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่ต้องการแก้ไขได้มากขึ้น ถือเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมแนวคิด Human-Centered Design หรือการออกแบบการแก้ไขปัญหาโดยมีผู้ใช้งาน (คน) เป็นศูนย์กลาง ทั้งนี้กระบวนการของ LSP® จะประกอบไปด้วย 7 กิจกรรมหลัก ดังนี้

1. Building Individual Models and Stories
2. Building Shared Models and Stories
3. Creating a Landscape
4. Making Connections
5. Building a System
6. Play Emergence and Decisions
7. Extracting Simple Guiding Principles

จุดเด่น: มีชุดตัวต่อเลโก้สำหรับ LSP โดยเฉพาะ และมีส่วนเสริมอีกหลายหลากรูปแบบเพื่อเพิ่มอรรถรส

at NIDA Ideation Hub

Day 2

Design Thinking Concept & Workshop

กระบวนการคิด การแก้ไขปัญหา และการสร้างนวัตกรรมอย่างสร้างสรรค์ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในหลาย ๆ ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคนหรือกระบวนการที่ต้องมีการทำความเข้าใจในปัญหาต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง โดยเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจและสังเกตพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเพื่อค้นหาปัญหาหรือความต้องการที่แท้จริง และสามารถระบุปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง ซึ่งในบางครั้งปัญหาที่มีความยุ่งยากซับซ้อนก็สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการที่เรียบง่ายอย่างคาดไม่ถึง โดยมีหลักการที่สำคัญคือ…

เข้าใจเป้าหมายให้ถูกต้อง
กำหนดแนวทางให้ถูกทาง
แก้ไขปัญหาให้ถูกใจ

กระบวนการคิดเชิงสร้างสรรค์ หรือ Design Thinking มีต้นกำเนิดมาจาก The Hasso Plattner Institute of Design หรือ d.school อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Stanford University ซึ่งกำหนดขั้นตอนการแก้ไขปัญหาไว้ 5 ขั้นตอน ได้แก่

EMPATHIZE
DEFINE
IDEATE
PROTOTYPE
TEST

จุดเด่น: ความร่วมมือกับ d.school, Stanford University ภายใต้โครงการ University Innovation Fellows (UIF) และอุปกรณ์สื่อการสอนที่จับต้องได้ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและปลุกความคิดสร้างสรรค์

at NIDA Design & Innovation Hub

Day 3

Computer Vision-AI with Drone

Computer Vision-AI หรือ คอมพิวเตอร์วิทัศน์ เป็นอีกแขนงหนึ่งของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทำการฝึกฝนคอมพิวเตอร์ให้เลียนแบบวิธีการมองของมนุษย์ ทำความเข้าใจสิ่งที่มนุษย์เห็น และและตอบสนองต่อข้อมูลจากรูปภาพที่ถ่ายจากกล้องถ่ายรูปหรือกล้องวีดิโอโดยใช้หลักการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ซึ่งทำให้สามารถตอบสนองต่อสิ่งที่มันมองเห็นได้ตามวัตถุประสงค์หรือชุดคำสั่งที่ได้กำหนดไว้

ประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์ ปฏิวัติได้ทุกอุตสาหกรรม

โดรน (Drone) คือ อากาศยานที่ควบคุมจากระยะไกลหรือใช้การควบคุมแบบอัตโนมัติด้วยระบบการบินด้วยตัวเองโดยอาศัยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการเขียนคำสั่งบังคับ โดยปกติโดรนจะมีการติดตั้งกล้องถ่ายภาพหรือกล้องอินฟราเรดที่สามารถถ่ายภาพระยะไกลทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน หรือมีการติดตั้งเซนเซอร์ชนิดต่าง ๆ เอาไว้ จึงมีการประยุกต์นำ Computer Vision–AI มาใช้ร่วมกับโดรนในการทำภารกิจต่าง ๆ  เช่น การเฝ้าระวังภัย การสำรวจข้อมูล และการค้นหาเป้าหมาย นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับกิจกรรมการขายได้อีกด้วย โดยผู้เข้าอบรบจะได้เรียนรู้ทักษะ

1. การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้ในการสร้างกลยุทธ์ให้กับธุรกิจ
2. การเขียนโปรแกรมบังคับโดรนอัตโนมัติแบบง่าย ๆ ด้วยโปรแกรม Scratch ซึ่งเป็นการเขียน Coding ในรูปแบบ Block-Based Language
3. การเชื่อมต่อชุดคำสั่ง Face Detection และ PoseNet โดยใช้ความสามารถของ Computer Vision–AI ในการบังคับโดรนให้สามารถบินไปตามทิศทางที่กำหนดด้วยท่าทางหรือการเคลื่อนไหวร่างกาย

จุดเด่น: มีโดรนติดกล้องให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกควบคุมด้วยการเขียนโปรแกรมมากกว่า 50 ลำ

at NIDA HUB Bookstore

Day 4 - 5

Technological Data-Driven Design

การประยุกต์แนวคิด Design Thinking ผนวกกับ LSP® เพื่อใช้ในการพัฒนากลยุทธ์ให้กับธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น AI, Big Data, Business Intelligence, และ Business Analytics เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาแก้ไขปัญหาหรือเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับองค์กร

“The Design Thinking for Emerging Technology Initiatives”

ผู้เข้าอบรมจะได้มีโอกาสเรียนรู้เทคโนโลยีชั้นนำทางด้าน AI, Big Data, BI, และ Analytics ที่ถูกนำไปใช้งานจริง ๆ ในธุรกิจ ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้เข้าอบรมมองเห็นภาพของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้และต่อยอดธุรกิจได้ชัดเจนมากขึ้น และยังสามารถเข้าใจข้อจำกัด สมมุติฐาน รวมถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งหัวข้อที่ผู้เข้าอบรมจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการนำเทคโนโลยีไปใช้กับธุรกิจจะประกอบไปด้วย 5 spaces ได้แก่

PROBLEM SPACE: กำหนดกรอบและวิเคราะห์ปัญหา

DATA SPACE: จัดการข้อมูลและเตรียมความพร้อม

ANALYTICS SPACE: วิเคราะห์ข้อมูลและสร้างแบบจำลองเชิงปริมาณ

TECHNOLOGY SPACE: เรียนรู้และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับฐานข้อมูล

USER SPACE: ประมวลผลและประเมินประสิทธิภาพ

จุดเด่น: มีกิจกรรมสร้างสรรค์มากมายที่ช่วยให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหาของทั้ง 5 spaces

at NIDA Design & Innovation Hub

Day 6

Digital Transformation Strategy

วันสุดท้ายของการอบรมจะเป็นการนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ทั้งหมดตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายมาประยุกต์ใช้ในการสร้างกลยุทธ์เพื่ออัปเกรดธุรกิจให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจาก Digital Disruption ในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของคุณสามารถปรับตัวเข้ากับเทรนด์และพฤติกรรมใหม่ ๆ ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับตลาดให้อยู่เหนือคู่แข่งได้อีกด้วย

Case Study & Site Visit

บทเรียนสุดท้ายของการอบรม เราต้องการให้คุณเรียนรู้จากกรณีศึกษาและตัวอย่างของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เพื่อที่คุณจะสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นหรืออาจได้รับไอเดียที่เป็นแนวทางสำหรับนำไปใช้กับธุรกิจของคุณเองได้ ซึ่งในช่วงท้ายจะมีการพาผู้เข้าอบรมไปสัมผัสกับเทคโนโลยีหลากหลายชนิดที่มีการใช้งานจริงในธุรกิจสมัยใหม่และมีแนวโน้มที่จะถูกนำไปพัฒนาต่อยอดในอนาคตอันใกล้

จุดเด่น: ได้สัมผัสกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่มีการใช้งานจริงในธุรกิจสมัยใหม่

at NIDA AI Innovation Hub

INSTRUCTOR: Assoc. Prof. Dr. Jongsawas Chongwatpol

รองศาสตราจารย์ ดร.จงสวัสดิ์ จงวัฒน์ผล อาจารย์ประจําคณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โดยจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท ในสาขา Risk Control Management และ สาขา Management Technology จากมหาวิทยาลัย University of Wisconsin-Stout และ ปริญญาเอก ในสาขา Business Administration จากมหาวิทยาลัย Oklahoma State University

รองศาสตราจารย์ ดร.จงสวัสดิ์ จงวัฒน์ผล มีความชำนาญในด้าน Big Data, Data Mining, Business Intelligence, AI Strategy, Decision Support Systems, RFID, Management Information Systems, Design Thinking, และ Lego® Serious Play® (LSP®) มีผลงานตีพิมพ์งานวิจัยในวารสารระดับชาติและนานาชาติ (Indexed by SCIMAGO and Scopus) เช่น Decision Sciences, Decision Sciences Journal of Innovative Education, Decision Support Systems, European Journal of Operational Research, Journal of Management Analytics, Benchmarking: An International Journal, Education and Information Technologies, Tourism Management Perspectives, Journal of Information Technology Teaching Cases, Energy – The International Journal, Industrial Management and Data Systems, และ Journal of Business Ethics

BUSINESS STRATEGY x AI INNOVATION

กลุ่มเป้าหมาย:
เจ้าของกิจการ นักวางกลยุทธ์ ผู้บริหารระดับสูง ที่ปรึกษาธุรกิจ ผู้บริหารระดับกลาง ผู้จัดการ หัวหน้างาน ผู้ให้คำปรึกษาทางด้าน IT และผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะยุคใหม่ที่จำเป็นในสายงาน Business

สถานที่อบรม:
อาคารบุญชนะ อัตถากร ห้อง NIDA HUB Bookstore,
ห้อง NIDA Design & Innovation HUB,
ห้อง NIDA AI Innovation Hub และ
ห้อง Ideation Hub (ชั้น 7)

หลักสูตร 6 วัน รวม 36 ชั่วโมง 
ค่าธรรมเนียม: ราคาเต็ม 50,000 บาท ลดเหลือ 45,000 บาท
กรณีเป็นศิษย์เก่านิด้า/ศิษย์ปัจจุบันนิด้า/หรือเคยอบรมกับศูนย์นวัตกรรมทางธุรกิจ/หรือสมัครพร้อมกัน 3 คน เหลือคนละ 39,000 บาท 

วันและเวลาจัดการอบรม
วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เวลา 08.30-15.30 น.
วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เวลา 08.30-15.30 น.
วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2568 เวลา 08.30-15.30 น.
วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30-15.30 น.
วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30-15.30 น.
วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30-15.30 น.